จากอาชีพ Media Buyer เมืองใหญ่ ผู้หลงใหลในงานศิลป์ ปัจจุบันผันตัวมาใช้ชีวิตบ้าน ๆ ที่บ้านเขียนไข จ.เชียงใหม่
เขียนไขและวานิช ศิลปินเจ้าของเพลงยอดนิยมที่หลายคนชื่นชอบ “แก้มน้องนางนั้นแดงกว่าใคร” ทำให้คุณโจ้ สาโรจน์ เป็นที่รู้จักในฐานะนักร้องนำเริ่มจากนั้นมา แต่ภายใต้ภาพลักษณ์ศิลปิน ยังมีอีกหลาย ๆ สิ่งที่รวมถึงไลฟ์สไตล์ ความชอบ การใช้ชีวิตที่ยังไม่ค่อยมีใครทราบ สาระอสังหา พาชมบ้านเขียนไขและวานิช Khiankhai Home & Studio สไตล์และผังบ้านที่สะท้อนตัวตนเจ้าของบ้านคุณบลู บุษราพรรณ ไพรทอง และคุณโจ้ สาโรจน์ ยอดยิ่ง ได้เป็นอย่างดี แต่ด้วยภาพลักษณ์ความเป็นศิลปินของทั้งคู่ผุดคิดทำธุรกิจที่ฉีกออกมาจากแนวทางเดิมถือเป็นสาระที่น่าสนใจ ซึ่งมีทิศทางการวางแผนเป็นไปลักษณะไหนบ้าง อ่านบทสัมภาษณ์ของคุณบลู
บ้านเขียนไข
ที่มาของบ้านเขียนไข เกิดขึ้นจากจังหวะ เวลาและโอกาสที่ลงตัว บ้านหลังนี้จึงได้ถูกปลูกสร้างขึ้นมา คุณบลู ซึ่งเดิมทีเป็นชาวระยอง เรียนจบและทำงานต่อที่กรุงเทพฯ โดยระหว่างเรียนก็มีโอกาสเดินทางมาเที่ยว จ.เชียงใหม่อยู่บ่อยครั้ง และฝันว่าวันนึงจะมาอยู่ที่นี่ให้ได้ ส่วนคุณโจ้เอง เป็นคนเชียงใหม่อยู่แล้วที่ อ.ดอยสะเก็ด ด้วยความหลงใหลในความเป็นธรรมชาติ บรรยากาศ กลิ่นอายวัฒนธรรม และไม่ไกลจากบ้านคุณแม่ จึงเลือกปลูกบ้านอยู่ที่นี่
“เนื้อที่บ้านทั้งหมด 1 ไร่ 1 งาน พื้นที่บ้านประมาณ 260 ตร.ม. บลูเป็นคนระยองแต่แฟนเป็นคนเชียงใหม่ เราอยากอยู่เชียงใหม่มานานแล้ว พอโอกาสและจังหวะเข้ามา ก็เลยย้ายมาอยู่ที่นี่ ตอนนี้ก็อยู่ได้เกือบ 1 ปีแล้ว ในส่วนของที่ดินก็ซื้อใหม่ เราไม่ได้เลือกที่แต่ทีเลือกเรา ฮ่า ความบังเอิญ คือเราก็หาที่ไปเรื่อยๆ จนเจอที่ผืนนี้ผ่านนายหน้า ตอนมาดูที่ครั้งแรกก็รู้สึกเฉย ๆ แต่คุณโจ้บอกว่าเอาตรงนี้แหละ เพราะเค้าขี้เกียจหาใหม่แล้ว เราก็เลยต้องทำการบ้านเพิ่มเติมว่าโลเคชั่นตรงนี้ ใกล้ไกลอะไรบ้าง ตัวเมือง โรงพยาบาล สถานีตำรวจ สถานที่ราชการ ร้านสะดวกซื้อ ตลาด สถานที่ท่องเที่ยว และสิ่งที่สำคัญสุดคือบ้านของแม่คุณโจ้ก็อยู่ไม่ไกลกันมาก โซนใกล้เคียงกัน สุดท้ายเลยตกลงกันว่าซื้อก็ซื้อ เลือกที่นี่แหละ”
แรงบันดาลใจการทำบ้านเขียนไขบนทำเล อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่
ก่อนหน้านี้คุณบลูได้ทำงานประจำอยู่ที่กรุงเทพฯ เมื่อออกมาสร้างบ้านอยู่เชียงใหม่ จึงเริ่มความคิดอยากทำธุรกิจจากความต้องการสร้างรายได้จากสิ่งที่มี นั่นคือบ้านเขียนไข คุณบลูมองว่าการทำบ้านพักไม่ได้เกิดจากแรงบันดาลใจสักทีเดียว แต่เป็นความตั้งใจต่อยอดจากสิ่งที่มีมากกว่า
“จริง ๆ ไม่ได้ถือว่าเป็นแรงบันดาลใจสักทีเดียว แต่เป็นการมองการณ์ไกลว่าการอยู่ที่นี่จะทำยังไงให้มีรายได้เข้ามามากกว่า เพราะเมื่อก่อนก็เคยทำงานประจำ แต่ตอนนี้ลาออกมาเพราะต้องอยู่ดูแลบ้าน และช่วยดูแลเรื่องคิวงานต่างๆให้คุณโจ้ เราก็มองว่าอาชีพของคุณโจ้มีทั้งขาขึ้นขาลง เราก็เลยคิดว่าต้องหาอาชีพสำรองไว้เผื่อวันที่ขาลงมาถึง เราจะได้มีอาชีพรองรับ และดำเนินชีวิตต่อไปได้โดยไม่สะดุด โดยส่วนตัวบลูเองก็มีเพื่อนเยอะ คุณโจ้เองก็มีเพื่อนเยอะเหมือนกัน เวลาใครเห็นเราลงรูปบ้านก็จะมีคอนเมนต์ว่าอยากไปเที่ยว อยากมาจัง ประกอบกับว่าเราอยากสร้างรายได้จากสิ่งที่เรามีอยู่และโลเคชันตรงนี้ก็สามารถต่อยอดได้ เลยคิดว่า งั้นโอเค ทำที่พักเลยก็แล้วกัน”
“แพลนคร่าวๆ ถ้าเริ่มต้นอยากทำที่พักแค่ 1 – 2 ห้อง ทำในสเกลที่เราดูแลเองได้ อนาคตคิดว่าแม่ออนน่าจะเป็นอำเภอที่มีคนรู้จักมากขึ้น นอกจากแม่กำปอง อำเภอนี้ยังล้อมรอบไปด้วยภูเขา มีน้ำพุร้อน มีอ่างเก็บน้ำ มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอีกเยอะที่รอคนมาสัมผัส และอีกอย่างถือว่าไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35-40 นาที แค่นั้นเอง”
หากบ้านพักสำเร็จ คิดว่า Target จะเป็นใคร
เมื่อครั้งที่ทำบ้าน สถาปนิก SHER MAKER เองก็ได้ตั้งคำถามนี้เช่นกัน คุณบลูได้วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายว่า Target ของที่พักที่จะทำ คือกลุ่มไหน ตอนนั้นเรานึกถึงกลุ่มเพื่อนสาวเรา ที่อยู่ในวัยทำงาน โสด ดูแลตัวเองได้ ชอบท่องเที่ยวธรรมชาติแต่ฉันก็ขอความสบายนิดนึงนะ และในขณะเดียวกันกลุ่ม Target ก็อาจเป็นผู้ที่มีความต้องการซื้อบ้านต่างจังหวัด บ้านในวัยเกษียณ แต่อยากลองเดินทางมาพักผ่อนเพื่อสัมผัสบรรยากาศก่อน
“กลุ่มลูกค้าที่คิดไว้ก็มีทั้งเพื่อนและคนอื่น ๆ ด้วย เพราะก่อนหน้านี้สถาปนิกก็เคยถามคำถามนี้เหมือนกัน เราคิดและตอบไปว่า อาจจะเป็นกลุ่มคนโสดวัยทำงาน เรามองว่าคนกลุ่มนี้มีกำลังที่จะจ่ายและพร้อมที่จะจ่าย เรารู้สึกว่าเค้าสามารถดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องการความหรูหรา ซึ่งก็แตกต่างจากกลุ่มครอบครัวอย่างเห็นได้ชัด ที่เราต้องเตรียมความพร้อม อุปกรณ์ต่าง ๆ ความสะดวกสบายให้เขา ซึ่งจุดประสงค์จริง ๆ ของเรา คืออยากทำที่พัก ที่ให้คนที่มาพักได้อยู่กับธรรมชาติ อยู่กับความเรียบง่ายและอยู่กับตัวเอง เพราะพื้นที่ตรงนี้ยังถือว่าเป็นชนบท มีเส้นทางให้วิ่ง มีทางให้ปั่นจักรยาน มีน้ำพุร้อนให้ไปแช่ กิจกรรมมันอาจจะไม่ได้หรูหรา แต่มันคือความธรรมดาที่เราอยากให้เค้าลองมาสัมผัส ยกตัวอย่าง เช่น คนที่อยู่ในเมืองมาเกือบทั้งชีวิต ส่วนนึงจะมีความฝันว่าอยากมีบ้านต่างจังหวัดในบั้นปลายชีวิต แต่ถ้ามาอยู่จริงๆแล้ว เค้าอาจจะไม่ชอบก็ได้ เพราะมันไม่มีอะไรเลย อย่างเราเรามาอยู่ก็ยังต้องปรับตัวอีกเยอะ เราก็เลยอยากสร้างที่พักตรงนี้ ให้เค้าได้ลองมาอยู่ มาสัมผัสก่อนว่าชอบจริง ๆ หรือเปล่า มาอยู่แล้วจะเหงามั้ย หรือเจอจิ้งจก ตุ๊กแก เค้ายังอยากจะมีบ้านอยู่ริมทุ่งนาหรือภูเขาอีกมั้ย”
หากสตูดิโอบ้านเขียนไขเปิดธุรกิจที่พักจริง ๆ มีความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวหรือไม่
เพราะทั้งบ้านและสตูดิโอในปัจจุบันก็ถือเป็นพื้นที่ส่วนตัว 100% แต่ด้วยกระบวนการวางแผนที่ยังไม่สมบูรณ์ ในอนาคตอาจต้องต่อเติมบ้าน ซื้อพื้นที่เพิ่มด้านหน้าหรือสร้างบ้านพักหลังเล็ก ๆ ที่ฝั่งซ้ายของสตูดิโอ คุณบลูยังมีความกังวลหากต้องขยายพื้นที่ออกไป เพราะที่ดินระแวกบ้านเป็นที่แปลงใหญ่ ไม่รู้เจ้าของที่จะแบ่งขายหรือไม่
“ตรงนี้ก็เป็นเรื่องที่กังวลมากที่สุดเลยทำให้ยังไม่ได้เปิดซะที เพราะยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าจะจัดสรรปันส่วนยังไง ให้เราและแขกที่มายังมีพื้นที่ส่วนตัวของกันและกัน และแฮปปี้ทั้ง 2 ฝ่าย แต่ถ้าจะทำที่พักก็อาจต้องแยกโซนออกไป ไม่เกี่ยวอะไรกับตัวบ้าน ภายหลังที่เราสร้างสตูดิโอเสร็จจะเห็นว่าเหลือพื้นที่ไม่เยอะ ส่วนตัวเราชอบพื้นที่โล่ง ๆ ถ้าจะทำมันอาจจะดูอึดอัดไป เลยยังไม่ได้ทำ ตอนนี้เลยคิดว่างั้นขยายพื้นที่ออกไปข้างหน้าอีกได้มั้ยนะ แต่ก็ยังเป็นความคิดอยู่ เพราะยังไม่ได้ถามเจ้าของที่ว่าเค้าจะแบ่งขายมั้ยและเงินเราก็ยังไม่พร้อม”
ถ้าไม่ใช่ “Stay” มีธุรกิจอื่นที่อยากทำหรือไม่
คุณบลูเป็นพนักงานประจำที่มีความชอบและหลงใหลในงานฝีมือ จนเกิดแบรนด์ของตัวเอง “หลงมือ” ที่มีการนำผ้าพื้นถิ่นพัฒนาเป็นเสื้อทอ งานทอ และในส่วนของคุณโจ้เอง ก็เรียนจบด้านศิลปะภาพพิมพ์เช่นกัน จึงมีความคิดว่าอยากทำสตูดิโอภาพพิมพ์ โชว์ผลงาน มีวิทยากรสอน Workhop ชั่วโมงสั้น ๆ เชื่อว่าทั้งงานศิลป์และสภาพแวดล้อมต้องเข้ากันได้ดี
“ส่วนตัวบลูชอบทำงานฝีมือ เสื้อผ้า งานทอ ส่วนคุณโจ้นอกจากงานเพลง ก็ยังชื่นชอบงานศิลปะ ภาพพิมพ์ ซึ่งสตูดิโอที่เพิ่งสร้างเสร็จก็จะเอาไว้ใช้ทำงานพวกนี้ต่อ ถ้าทำแล้วมันไปได้ แบ่งสรรเวลาได้ วันหนึ่งก็อาจจะเปิดเป็นสถานที่ Workshop หรืออาจจะชวนเพื่อนๆ เราที่มีความสามารถด้านศิลปะแขนงต่างๆ มาเป็นวิทยากร ซึ่งถ้าไอเดียที่แพลนนี้ไว้มันเวิร์ค ก็อาจจะโฟกัสตรงนี้ก่อน เพราะสตูดิโอเราสร้างเสร็จแล้วแค่รอการลงมือทำ แต่ถ้าเป็นที่พัก เราต้องเริ่มนับ 1 ใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลากว่า”
และทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวสตูดิโอบ้านเขียนไขของคุณบลูและคุณโจ้ ศิลปินสองสไตล์ที่มีแนวคิดทำธุรกิจอสังหาขนาดเล็ก โดยเลือกทำเลแม่ออน จ.เชียงใหม่ เพราะเชื่อในเรื่องศักยภาพการพัฒนาของพื้นที่ การเดินทางสะดวก ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก ซึ่งนอกจากการทำบ้านพัก ทั้งคู่ยังมีการวางแผนธุรกิจอื่นที่สามารถนำมาจับคู่กับความโดดเด่นของทำเล ความเงียบสงบ และความสวยงามของทัศนีย์ภาพ แต่ปัจจุบันสถานะบ้านเขียนไขยังถือเป็นบ้านพักอาศัยที่มีเพื่อน ๆ คอยแวะเวียนมา หรือเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมในบางเวลา สำหรับใครที่เป็นแฟนเพลงของเขียนไขและวานิช สามารถติดตามอัปเดตเรื่องราวของบ้านต่อที่ Khiankhai Home & Studio