ใกล้หมดปีแบบนี้ สาระอสังหา ทำลีสต์รายการลดหย่อนภาษี 2565 เพื่อให้ทั้งมือใหม่และผู้ที่มีรายได้เกิน 120,000 บาทต่อปี ผู้มีหน้าที่ต้องยื่น “ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา” ได้ทราบ แต่หากขาดความเข้าใจในการใช้สิทธิเพื่อขอลดหย่อนภาษีที่ดี ก็อาจทำให้การวางแผนการลดหย่อนภาษีขาดประสิทธิภาพได้ เริ่มวางแผนง่าย ๆ ด้วยการดูประเภทสิทธิที่สามารถขอลดหย่อนได้ เพราะการได้สิทธิลดหน่อยภาษีจะทำให้เราเสียภาษีถูกลง
รวมรายการลดหย่อนภาษี 2565
ส่วนตัวและครอบครัว
1.ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท
2.ค่าลดหย่อนคู่สมรสที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย 60,000 บาท
3.ค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตรที่สถานพยาบาลของรัฐหรือเอกชน ลดหย่อนได้ไม่เกิน 60,000 บาทต่อปี (สามีสามารถลดหย่อนภาษีในกรณีที่ภรรยาไม่มีเงินได้)
4.ค่าลดหย่อนภาษีบุตร คนละ 30,000 บาท ซึ่งต้องเป็นบุตรตามกฎหมายหรือบุตรบุญธรรม
5.ค่าลดหย่อนบุตรคนที่ 2 เป็นต้นไป เกิดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป สามารถลดหย่อนได้คนละ 60,000 บาท
6.ค่าลดหย่อนสำหรับเลี้ยงดูบิดามารดา 30,000 บาท กรณีเสียชีวิตระหว่างปีนั้น ๆ ยังสามารถขอลดหย่อนได้
7.ค่าอุปการะผู้พิการหรือทุพลภาพ 60,000 บาท
กลุ่มประกัน เงินออม และการลงทุน
1.เบี้ยประกันชีวิตและประกันแบบสะสมทรัพย์ ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
2.เบี้ยประกันสุขภาพ/ประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองสุขภาพ ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี
3.ประกันสังคม สามารถลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท (จากปกติ 9,000 บาท) เนื่องจากปี พ.ศ. 2565 มีการปรับลดอัตราเงินสะสมประกันสังคม (จำนวนเงินประกันสังคมที่ลดหย่อนได้สูงสุดเป็นข้อมูลในเดือนมิถุนายน 2565 ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ หากมีประกาศปรับลดส่งเงินสมทบอีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง)
4.เบี้ยประกันสุขภาพของบิดามารดา ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท (บิดามารดาไม่จำเป็นต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไป แต่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี)
หมายเหตุ : สำหรับกลุ่มค่าลดหย่อนประกันชีวิตและการออม เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
5.กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF : Retirement Mutual Fund) ลดหย่อนภาษีได้ 30% ของเงินได้ ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี
6.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) / กองทุนบำเหน็จบำนาญราชการ (กบข.) / กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน นำมาลดหย่อนได้ 15% ของเงินได้ ตามจำนวนที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี
7.เบี้ยประกันชีวิตบำนาญ ลดหย่อนภาษีได้ 15% ของเงินได้ ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี ซึ่งมีเงื่อนไขของค่าลดหย่อนประกันชีวิต คือ ต้องมีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป และทำประกันกับบริษัทประกันชีวิตในประเทศไทย มีการจ่ายผลประโยชน์เป็นรายงวดอย่างสม่ำเสมอ
8.กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 13,200 บาทต่อปี
9.กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF : Super Saving Funds) กองทุนเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว นำมาลดหย่อนได้ 30% ของเงินได้ ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี โดยให้สิทธิประโยชน์สำหรับลดหย่อนภาษี 5 ปี
หมายเหตุ : สำหรับกลุ่มค่าลดหย่อนประกันชีวิตและการลงทุนในการวางแผนเกษียณ เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์/กระตุ้นเศรษฐกิจ
1.ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย สามารถนำไปลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
2.โครงการช้อปดีมีคืน 2565 สามารถนำไปลดหย่อนได้ไม่เกิน 30,000 บาท สำหรับการซื้อสินค้าหรือบริการในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 65 – 14 ก.พ. 65 ได้แก่ สินค้าและบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สินค้า OTOP สินค้าหมวดหนังสือ (รวมถึง E-Book)
3.เงินลงทุนวิสาหกิจเพื่อสังคม สามารถนำไปลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
กลุ่มเงินบริจาค
1.เงินบริจาคให้กับพรรคการเมือง นำมาลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งมาจากมาตรา 70 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 กำหนดไว้ว่า ผู้บริจาคเงินให้แก่พรรคการเมืองสามารถนำจำนวนเงินบริจาคไปหักเป็นค่าลดหย่อนภาษีหรือรายจ่ายเพื่อการบริจาคตามที่กำหนดในประมวลรัษฎากร
2.เงินบริจาคเพื่อการศึกษา สถานพยาบาลของรัฐ การกีฬา พัฒนาสังคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ สามารถนำมาลดหย่อนได้ 2 เท่าของเงินบริจาคจริง สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าลดหย่อนภาษี
3.เงินบริจาคทั่วไป ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าลดหย่อนภาษี
ตามกลุ่มประเภทของรายการลดหย่อนภาษี 2565 ที่สาระอสังหาได้รวบรวมให้ สามารถนำมาวางแผนการจ่ายภาษีเพื่อเป็นการวางแผนทางการเงิน การใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน การออมเพื่ออนาคต และการซื้อที่อยู่อาศัย ดังนั้น หากทราบข้อมูลเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีมากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้มีรายได้/ผู้ต้องเสียภาษี อ่านบทความภาษีน่ารู้ที่นี่!